
สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว ดอกอ้อ ทุ่งทอง เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เจอผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา แม้งานในวงการจะหยุดชะงัก

แต่เจ้าตัวก็ขอสร้างรายได้ด้วยการเข้าป่าเก็บเห็ดขาย ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า แถวหมู่บ้านของสาวดอกอ้อ ใน จ.อุบลราชธานี

มีป่าเห็ดอยู่และเป็นหน้าฝนด้วย ไม่ใช่ป่าดงดิยหรือป่ารก สามารถเดินเข้าไปเก็บเห็ดมาขายได้ โดยจะนำมาดองน้ำเกลือใส่กระปุกขาย

นอกจากนี้ตนยังขายของอื่น ๆ อีก อย่างปลาร้าสูตรแซ่บ สำหรับรายได้หรือกระแสตอบรับจากการขายของนั้น เรียกได้ว่าโอเคเลย

มีแฟนเพลงแฟนคลับ และพี่น้องทุกคน ที่อุดหนุนกันเข้ามาทำให้พออยู่ได้ พอได้ใช้จ่ายในช่วงสถาการณ์ที่ผ่านมา แบบนี้

ทั้งนี้ สาวดอกอ้อ ยังบอกด้วยว่า นี่ก็เป็นชีวิตตนนั้นที่ชอบอยู่แล้ว เป็นเด็กบ้านนอกที่ไม่รู้จะทำอะไรนอกเหนือจากไปทุ่งนา

เรียกได้ว่าเป็นความสุขช่วงระยะหนึ่ง ไม่มานั่งเครียdกับสถานการณ์ช่วงนั้น ตลอดเวลา และเมื่อมีท้องไร่ทุ่งนาก็เข้าป่ากันดีกว่า

ถาม ด้วยวัยห่างกันขนาดนี้ มีทะเลๅะกันบ้างไหม ก้านตอง ทุ่งเงิน : ทะเลๅะกันเรื่องจุกจิก ด้วยความที่อายุเราห่างกัน เราชอบอย่างหนึ่ง

เขาชอบอีกอย่างหนึ่ง อย่างเราชอบนอน พี่อ้อเขาชอบตื่นเช้า เราก็รู้สึกว่าเรานอนไม่อิ่ม เพราะเรานอนตีสามแล้ว พี่อ้อตื่นหกโมงเช้า

เขาตื่นมาคุยโทรศัพท์ กราบนมัสการหลวงพ่อตั้งแต่เช้า เรานอนห้องเดียวกันแต่แยกเตียงกันค่ะ แล้วอีกอย่าง ตื่นมาเขาจะปิดแอร์ก่อน นิสัยต่างกันเลยค่ะ

ดอกอ้อ ทุ่งทอง : ก้านตองเขาจะดื้อ แล้วก็เป็นคนสะอาดมาก เส้นผมร่วงออกจากตัวเรา ก้านตองต้องรีบหยิบเก็บไปเลย ฝุ่นที่บ้านคือไม่มีเลย

ถาม การเข้าสู่วงการหรือการที่เราได้มาเป็นนักร้องถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของครอบครัวเราหรือเปล่า ดอกอ้อ ทุ่งทอง : เป็นจุดเปลี่ยนเลยค่ะ

ตอนนั้นไปประกวดร้องเพลงตามเวที เป็นตัวแทนของโรงเรียน เราจะถูกญาติๆ ผลักให้ไปร้อง เพราะคุณพ่อ คุณแม่ เป็นคนขี้อาย

ท่านเลยไม่ได้พาเราไป และเราก็เป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูดด้วยตอนนั้น พอเราไปประกวด เราก็ได้เงินมาซื้อข้าว ซื้ออะไรกินในครอบครัว

แล้วมีวันหนึ่งที่เราประกวดชนะตามตำบล อำเภอ แล้วก็จังหวัด แล้วก็มีครูคนหนึ่งชื่ออาจารย์สุดโก้ เจียรนัย เขาก็มาพาไปทำเพลงอัลบั้มชุดแรก
